เรื่องย่อ อุ้ยเสี่ยวป้อเทพบุตรเจ้าสำราญ
อุ้ยเสี่ยวป้อ เทพบุตรเจ้าสำราญ อุ้ยเสี่ยวป้อเทพบุตรเจ้าสำราญ
อุ้ยเสี่ยวป้อ เทพบุตรเจ้าสำราญ ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ ศุกร์ เวลา 13.00 - 14.00 น. ทางช่อง 3
อุ้ยเสี่ยวป้อ เทพบุตรเจ้าสำราญ นำแสดงโดย : หวงเสี่ยวหมิง, จงฮั่นเหลียง, อิงไฉ่เอ๋อ, เหอจั๋วเหยียน, หลิวหยุน, ซูช่าง, หลิวจือ, หูเข่อ, หลี่เฟย, หม่าหลิง, หนิงจิ้ง, สีจิ่นเจียง, ถานเฟยหลิง, ซิจงยุ่ย, เหอเจียอี้, หัวจื่อ, จู้เหยียนผิง, จ้าวเสี่ยวยุ่ย, หลี่เฉิงหยู, เกาหย่วน
เนื้อหาของเรื่องสะท้อนสังคมในรัชสมัยของคังซีฮ่องเต้แห่งต้าชิง โดยผ่านตัวละครอุ้ยเสี่ยวป้อเด็กหนุ่มผู้ต่ำต้อยซึ่งเติบโตมาจากชนชั้นล่างของสังคม
อุ้ยเสี่ยวป้อลูกชายหญิงคณิกาเมืองหยางโจวนับตั้งแต่เล็ก ได้ดูได้ฟังงิ้วมาโดยตลอดจึงทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาบรรดาวีรบุรุษซึ่งเป็นตัวละครในงิ้ว อุ้ยเสี่ยวป้อปฏิญาณว่าสักวันหนึ่งตนจะต้องเป็นวีรบุรุษเลื่องชื่อให้ได้ วันหนึ่ง อุ้ยเสี่ยวป้อได้ช่วยชีวิตเหมาสือปาชาวยุทธซึ่งกำลังมีภัยเอาไว้ด้วยความกล้าหาญ เหมาสือปาซาบซึ้งน้ำใจที่อุ้ยเสี่ยวป้อช่วยชีวิตตนเอาไว้ ด้วยความที่เหมาสือปาทนคำรบเร้าของอุ้ยเสี่ยวป้อไม่ไหวจึงต้องพาอุ้ยเสี่ยวป้อเดินทางไปปักกิ่ง
เมื่อถึงเมืองหลวง อุ้ยเสี่ยวป้อถูกขันทีเฒ่าและขันทีหนุ่มผู้ติดตามนำตัวเข้าวังหลวง อุ้ยเสี่ยวป้อใช้อุบายทำให้ไห่ต้าฟู่ขันทีเฒ่าตาบอด ทั้งยังเป็นเหตุให้เสี่ยวกุ้ยจื่อขันทีหนุ่มซึ่งติดตามไห่ต้าฟู่เสียชีวิตไปอีกด้วย นับแต่นั้นเป็นต้นมา อุ้ยเสี่ยวป้อจึงต้องสวมรอยเป็นขันทีเสี่ยวกุ้ยจื่อใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวง
วันหนึ่ง ขณะที่อุ้ยเสี่ยวป้อกลับจากเล่นพนันก็พบเห็นชายหนุ่มซึ่งเรียกตัวว่าเสี่ยวเสียนจื่อกำลังฝึกวรยุทธอยู่ อุ้ยเสี่ยวป้อนึกสนุกจึงเป็นคู่ซ้อมให้เสี่ยวเสียนจื่อ ที่แท้ชายหนุ่มที่ว่านี้คือคังซีฮ่องเต้ (เสียนเย่) นั่นเอง อ้าวไป้ขุนนางใหญ่ที่ทะนงตนว่าวรยุทธลึกล้ำไร้ผู้เทียมทาน มีคุณูปการต่อชาติบ้านเมือง แต่ความจริงแล้วเป็นขุนนางชั่วที่ถืออำนาจบาตรใหญ่ ไม่ยำเกรงเบื้องสูง ด้วยเหตุนี้คังซีฮ่องเต้จึงคิดหาทางกำจัดอ้าวไป้ให้พ้นทาง
คังซีฮ่องเต้ทรงวางแผนโดยมีรับสั่งให้อุ้ยเสี่ยวป้อนำขันทีจำนวนหนึ่งเล่นงิ้วหาทางกำจัดอ้าวไป้ อุ้ยเสี่ยวป้อใช้ปฏิภาณไหวพริบสังหารอ้าวไป้ขุนนางชั่ว คุณงามความดีครั้งนี้ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อกลายเป็นคนโปรดของคังซีฮ่องเต้ และในเวลาเดียวกันอุ้ยเสี่ยวป้อก็ได้กลายเป็นที่หมายปองของพี่น้องพรรคฟ้าดินซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ต้านชิงกู้หมิง
ภายในวันเดียวกันนั้นเอง อุ้ยเสี่ยวป้อเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปีไม่เพียงได้เป็นศิษย์ของเฉินจิ้นหนันหัวหน้าพรรคฟ้าดิน ทั้งยังได้เป็นหัวหน้าป้อมชิงมู่ของพรรคฟ้าดินอีกด้วย อุ้ยเสี่ยวป้อได้รับคำสั่งจากเฉินจิ้นหนันให้เดินทางกลับวังหลวงเพื่อเป็นสายให้พรรคฟ้าดิน
วันหนึ่ง อุ้ยเสี่ยวป้อได้รู้ถึงความลับที่ไทเฮาทรงสมคบคิดกับพรรคมังกรเทพ นอกจากนี้ยังรู้จากไทเฮาว่าซุ่นจื้อพระราชบิดาของคังซีฮ่องเต้ทรงผนวชประทับอยู่ที่วัดที่อู่ไถซันอีกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ไทเฮาทรงปองร้ายเสี่ยวเสียนจื่อ อุ้ยเสี่ยวป้อจึงตัดสินใจนำเรื่องที่ตนรับรู้มารวมถึงเรื่องที่ตนสวมรอยเป็นเสี่ยวกุ้ยจื่อทูลต่อคังซีฮ่องเต้ คังซีฮ่องเต้ทรงตกพระทัยและปิติยินดีที่พระราชบิดายังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่คังซีฮ่องเต้ทรงรู้ความจริงแล้วก็ทรงมีพระบัญชาให้อุ้ยเสี่ยวป้อเดินทางไปอู่ไถซันทันที
อุ้ยเสี่ยวป้อต้องพบอุปสรรคมากมายจนกระทั่งได้พบกับซุ่นจื้ออดีตฮ่องเต้ที่วัดชิงเหลียงบนเขาอู่ไถซัน ระหว่างทางที่อุ้ยเสี่ยวป้อเดินทางกลับวังหลวงได้ถูกศิษย์สำนักมังกรเทพลักพาตัวไปที่เกาะงู ระหว่างที่อุ้ยเสี่ยวป้ออยู่บนเกาะงูนั้นได้ใช้อุบายจนเป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจของหงอันทงหัวหน้าพรรคมังกรเทพจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตมังกรขาว
หลังจากที่อุ้ยเสี่ยวป้อเดินทางถึงปักกิ่งก็ทูลรายงานคังซีฮ่องเต้ถึงเรื่องซุ่นจื้อ เดิมทีอุ้ยเสี่ยวป้อคิดว่าจะได้รับการตบรางวัลอย่างงามจากคังซีฮ่องเต้ แต่นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่คังซีฮ่องเต้ทรงตบรางวัลอย่างงามให้อุ้ยเสี่ยวป้อแล้ว พระองค์ก็ทรงมีพระบัญชาให้อุ้ยเสี่ยวป้อไปบวชเป็นหลวงจีนที่วัดเส้าหลิน อุ้ยเสี่ยวป้อได้กลายเป็นศิษย์ของหลวงจีนฮุ่ยหมิงศิษย์รุ่นเดียวกับเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน
หลวงจีนฮุ่ยหมิงเป็นหลวงจีนที่ไม่ยึดถือปฏิบัติตามวินัย ไม่ว่าจะดื่มเหล้า กินเนื้อสัตว์ เที่ยวหอนางโลม ทำลายชื่อเสียงเกียรติภูมินับพันปีของวัดเส้าหลิน เป็นที่เอือมระอาของบรรดาหลวงจีนด้วยกัน ผิงซีอ๋องอู๋ซันกุ้ยตั้งตัวเป็นใหญ่ที่ยูนาน คังซีอ่องเต้ทรงเห็นว่าถ้าหากปล่อยไว้จะเป็นภัยในภายภาคหน้า พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริที่จะสลายอิทธิพลของอู๋ซันกุ้ย ก่อนที่จะยกทัพไปปราบอู๋ซันกุ้ย เพื่อให้อู๋ซันกุ้ยชะล่าใจ คังซีฮ่องเต้จึงทรงตัดสินพระทัยยกองค์หญิงเจี้ยนหนิงให้อภิเษกสมรสกับอู๋อิงไท่บุตรชายอู๋ซันกุ้ย
บังเอิญพ้นกำหนดถือบวชของอุ้ยเสี่ยวป้อพอดี คังซีฮ่องเต้จึงทรงมีรับสั่งให้อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นทูตถือสาส์นอภิเษกสมรส อุ้ยเสี่ยวป้อนำพาทหารองครักษ์ถวายอารักขาองค์หญิงเจี้ยนหนิงเดินทางไปยูนาน เดิมทีทั้งอุ้ยเสี่ยวป้อและองค์หญิงเจี้ยนหนิงนั้นรู้จักกันมาก่อน
เมื่อต้องเดินทางรอนแรมเป็นเวลานานจึงทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้นจนรักกันในที่สุด ก่อนที่จะเดินทางถึงยูนานทั้งสองก็ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน ทำให้ทูตถือสาส์นอภิเษกสมรสต้องกลายเป็นราชบุตรเขย ที่เมืองคุนหมิง องค์หญิงเจี้ยนหนิงซึ่งกำลังทรงดื่มด่ำอยู่กับความรักนั้นไม่เพียงทรงปฏิเสธที่จะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับอู๋อิงไท่ ทั้งยังทำลายความเป็นชายของอู๋อิงไท่ลงอีกด้วย
อุ้ยเสี่ยวป้อเห็นว่าเรื่องราวใหญ่โตบานปลายไปกันใหญ่แล้วจึงตัดสินใจพาอู๋อิงไท่และองค์หญิงเจี้ยนหนิงกลับเมืองหลวง ต่อมา อุ้ยเสี่ยวป้อได้รับพระบัญชาให้นำทัพปราบอู๋ซันกุ้ยที่สมคบคิดการใหญ่กับพรรคมังกรเทพ อุ้ยเสี่ยวป้อนำทัพบุกเหลียวตง แต่ยังไม่ทันเดินทางถึงเกาะงู แม่ทัพใหญ่ก็ถูกหงอันทงจับเป็นเชลย อุ้ยเสี่ยวป้อซึ่งกำลังตกอยู่ในอันตรายจึงต้องแสดงละครตบตาหลอกลวงหงอันทง จนในที่สุดอุ้ยเสี่ยวป้อก็สามารถหลบหนีออกจากพรรคมังกรเทพได้อย่างปลอดภัย หงอันทงโกรธมากเมื่อพบว่าหลงกลอุ้ยเสี่ยวป้อเข้าแล้ว ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ตามล่าปลิดชีวิตอุ้ยเสี่ยวป้อให้ได้
อุ้ยเสี่ยวป้อเข้าตาจนจึงต้องเดินทางขึ้นเหนือจนถึงเขาลู่ติ่งซัน นึกไม่ถึงว่าอุ้ยเสี่ยวป้อพลัดหลงเข้าไปในค่ายทหารของรัสเซีย ด้วยความที่อุ้ยเสี่ยวป้อเกรงว่าจะถูกพรรคมังกรเทพเล่นงาน อุ้ยเสี่ยวป้อไม่มีทางเลือกจึงจำต้องหลอกลวงองค์หญิงโซเฟียแห่งรัสเซีย องค์หญิงโซเฟียทรงรีบเร่งเดินทางกลับรัสเซียเพื่อเยี่ยมพระอาการประชวรของพระเจ้าซาร์ นึกไม่ถึงว่าระหว่างทางองค์หญิงโซเฟียมีภัย อุ้ยเสี่ยวป้อไม่เพียงช่วยชีวิตองค์หญิงโซเฟียไว้ ทั้งยังทำให้องค์หญิงโซเฟียได้ขึ้นครองราชย์เป็นราชินีแห่งรัสเซียอีกด้วย
อุ้ยเสี่ยวป้อตามเสด็จองค์หญิงโซเฟียกลับรัสเซีย เนื่องจากอุ้ยเสี่ยวป้อมีความดีความชอบ องค์หญิงโซเฟียจึงทรงแต่งตั้งอุ้ยเสี่ยวป้อเป็นขุนนางใหญ่ อุ้ยเสี่ยวป้อคิดถึงบ้านเกิด ดังนั้นจึงอ้างว่าจะนำราชทูตรัสเซียเดินทางไปปักกิ่งเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับแผ่นดินต้าชิง ต้าชิงและรัสเซียทำสัญญาหย่าศึกกัน เนื่องจากอุ้ยเสี่ยวป้อทำคุณงามความดีต่อชาติบ้านเมือง คังซีฮ่องเต้จึงทรงสถาปนาอุ้ยเสี่ยวป้อเป็นอ๋อง
อู๋ซันกุ้ยวางแผนโค่นบัลลังก์ เพื่อให้บ้านเมืองเป็นปึกแผ่นมั่นคง ผูกใจประชาเป็นหนึ่งเดียวกัน คังซีฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชาให้อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นผู้แทนพระองค์เยี่ยมเยียนผูกใจประชา อุ้ยเสี่ยวป้อกลับบ้านเกิดในฐานะขุนนางใหญ่ หลังจากที่อุ้ยเสี่ยวป้ออ่านราชโองการของคังซีฮ่องเต้แล้ว อุ้ยเสี่ยวป้อก็ลอบไปหาแม่ที่ลี่ชุนย่วน นึกไม่ถึงว่าเมื่อถึงลี่ชุนย่วน อุ้ยเสี่ยวป้อกลับต้องตกอยู่ในวงล้อมชาวยุทธ อุ้ยเสี่ยวป้อเห็นเช่นนั้นจึงวางยาสลบชาวยุทธจนรักษาชีวิตไว้ได้ นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อได้หญิงงามถึงหกคนมาเป็นภรรยาในคราวเดียวกัน
ขณะที่อุ้ยเสี่ยวป้อกำลังมีความสุขอยู่กับบรรดาฮูหยินของตนอยู่นั่นเอง อู๋ซันกุ้ยได้ก่อการกบฏขึ้นที่ยูนาน ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อจึงจำต้องเดินทางกลับเมืองหลวงทันที หมัดเทวดากุยซันซู่สองสามีภรรยาพลั้งมือฆ่าอู๋ลิ่วชีถึงแก่ความตาย เรื่องนี้ทำให้คนทั้งสองรู้สึกผิดจึงตัดสินใจร่วมมือกับพรรคฟ้าดินลอบเข้าวังหลวงเพื่อปลงพระชนม์คังซีฮ่องเต้ อุ้ยเสี่ยวป้อไม่สามารถนิ่งดูดายได้เมื่อเห็นเสี่ยวเสียนจื่อ (คังซีฮ่องเต้) มีภัย ดังนั้นจึงวางแผนช่วยคังซีฮ่องเต้ ทำให้แผนการลอบปลงพระชนม์คังซีฮ่องเต้ของกุยซินซู่ล้มเหลว
กุยซินซู่เคียดแค้นจึงเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของอุ้ยเสี่ยวป้อที่เป็นคนของพรรคฟ้าดินออกมา เมื่อคังซีฮ่องเต้ทรงรู้ความจริงเช่นนั้นแล้วก็ทรงมีรับสั่งให้นำกำลังทหารกวาดล้างพรรคฟ้าดิน คังซีฮ่องเต้ทรงให้โอกาสอุ้ยเสี่ยวป้อทำคุณไถ่โทษโดยการจับกุมตัวหัวหน้าพรรคฟ้าดินกลับมา อุ้ยเสี่ยวป้อไม่อยากให้ร้ายเฉินจิ้นหนันผู้เป็นอาจารย์และพี่น้องพรรคฟ้าดิน ดังนั้นจึงตัดสินใจช่วยคนเหล่านั้นเอาไว้ จากนั้นอุ้ยเสี่ยวป้อก็ตัดสินใจหลบหนีไปจากเมืองหลวง ก่อนที่จะหลบหนีไปนั้น อุ้ยเสี่ยวป้อได้ชักชวนองค์หญิงเจี้ยนหนิงไปด้วยกัน
อุ้ยเสี่ยวป้อพาองค์หญิงเจี้ยนหนิงและบรรดาฮูหยินรวมเจ็ดคนหลบหนีไปตั้งหลักปักฐานอยู่ที่เกาะทงชือซึ่งไม่ไกลจากเกาะงูสักเท่าใดนัก เวลาผ่านไปหลายปี คังซีฮ่องเต้ทรงเห็นแก่มิตรภาพที่พระองค์และอุ้ยเสี่ยวป้อมีต่อกัน พระองค์ไม่เพียงไม่ทรงส่งทหารตามล่าเอาชีวิตอุ้ยเสี่ยวป้อ ในทางกลับกันพระองค์กลับทรงส่งทหารอารักขาอุ้ยเสี่ยวป้ออีกด้วย
โซเวียตคิดยึดครองดินแดนตะวันออกซึ่งเป็นไปตามที่คังซีฮ่องเต้ทรงคาดการ หลังจากที่คังซีฮ่องเต้ทรงปราบหัวเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ได้แล้ว พระองค์ก็ทรงยึดไต้หวันเป็นฐานกำลังเพื่อรับมือกับโซเวียต เนื่องจากอุ้ยเสี่ยวป้อเคยเดินทางไปมอสโกมาก่อน ที่สำคัญมีความสัมพันธ์อันดีต่อราชินีโซเวียต เมื่อเป็นเช่นนี้ คังซีฮ่องเต้จึงทรงมีรับสั่งให้อุ้ยเสี่ยวป้อกลับเมืองหลวงทันที คังซีฮ่องเต้ทรงสถาปนาอุ้ยเสี่ยวป้อเป็นลู่ติ่งตงโดยให้นำกองทัพรับมือโซเวียต อุ้ยเสี่ยวป้อเห็นเสี่ยวเสียนจื่อ (คังซีฮ่องเต้) ไม่ได้นำพรรคฟ้าดินขึ้นมาเป็นเงื่อนไข ดังนั้นจึงรับคำสั่งด้วยดี
อุ้ยเสี่ยวป้อปฏิบัติตามแผนการของคังซีฮ่องเต้โดยการนำกองทัพบุกตีไปข้างหน้าจนได้รับชัยชนะ จากนั้นก็ทำสัญญาสงบศึกกับโซเวียต ทำให้อุ้ยเสี่ยวป้อประสบความสำเร็จทั้งการทหารและการทูต อุ้ยเสี่ยวป้อเดินทางกลับด้วยการสร้างเกียติภูมิยิ่งใหญ่ให้ชาติบ้านเมือง แต่ไม่นานนักก็มีมรสุมเข้ามา คังซีฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาให้อุ้ยเสี่ยวป้อกวาดล้างพรรคฟ้าดิน แต่พี่น้องพรรคฟ้าดินกลับต้องการให้อุ้ยเสี่ยวป้อเป็นหัวหน้าพรรคฟ้าดินเพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของเฉินจิ้นหนันต่อไป ทั้งสองเรื่องสร้างความลำบากใจ ยากนักที่จะตัดสินใจ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีหนทางเดียวเท่านั้นคือหลบหนี
อุ้ยเสี่ยวป้อทูลคังซีฮ่องเต้ว่าจะกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านเกิด แต่ความจริงแล้วกลับพาฮูหยินทั้งเจ็ดเดินทางไปรับแม่หลบหนีไปด้วยกัน อุ้ยเสี่ยวป้อปกปิดชื่อแซ่ หาที่สงบเงียบใช้ชีวิตฮูหยินทั้งเจ็ด คังซีฮ่องเต้ทรงพบว่านานมากแล้ว แต่อุ้ยเสี่ยวป้อก็ไม่กลับมาเสียที พระองค์ไม่เพียงทรงมีรับสั่งให้ทหารออกค้นหา ทั้งยังเสด็จลงใต้ด้วยพระองค์เองอีกด้วย แต่ก็ไม่มีข่าวคราวอุ้ยเสี่ยวป้อแม้แต่น้อย ราวกับว่าไม่มีคนชื่ออุ้ยเสี่ยวป้ออยู่ในโลก
|